การทำเค้กอาจเป็นศิลปะแห่งความหอมหวานและความอร่อยที่คุณอยากจะแบ่งปันกับครอบครัวและเพื่อน ไม่ว่าคุณจะเป็นเชฟมือโปรหรือมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำอาหาร สูตรสปันจ์เค้กพื้นฐานนี้จะการันตีว่าคุณจะไม่มีความผิดหวังใด ๆ อย่างแน่นอน มาเริ่มต้นกันเลย!
สูตรสปันจ์เค้กพื้นฐาน การันตีไม่มีพลาด Basic Vanilla Sponge Cake NO FAIL Guarantee! | AnnMade [VIDEO]
ส่วนผสม INGREDIENTS
แป้งเค้ก 200 g cake flour
ผงฟู 1 tsp baking powder
น้ำตาล 200 g sugar
ไข่ 8 eggs
เอสพี 20g SP or Ovalet
น้ำมัน 150 g rice bran oil
น้ำ 100 g water
กลิ่นวนิลา 4 tsp vanilla extract
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมวัตถุดิบ
| วัตถุดิบ | ปริมาณ |
|---|---|
| แป้งเค้ก | 200 กรัม |
| ผงฟู | 1 ช้อนชา |
| น้ำตาล | 200 กรัม |
| ไข่ | 8 ฟอง |
| เอสพี | 20 กรัม |
| น้ำมัน | 150 กรัม |
| น้ำ | 100 กรัม |
| กลิ่นวนิลา | 4 ช้อนชา |
ขั้นตอนที่ 2: ผสมวัตถุดิบหลัก
ขั้นตอนที่ 2 ในการทำสปันจ์เค้กพื้นฐานนี้คือการผสมวัตถุดิบหลักที่เตรียมไว้ให้เข้ากันอย่างลงตัว เพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยและโครงสร้างที่นุ่มละมุน ของคุณเค้ก ความสำคัญในขั้นตอนนี้คือการผสมให้ทั่วถึงและไม่มีตกแต่งเพิ่มเติมเข้ามาในแม่และทำให้รางน้ำตาลแยกจากส่วนอื่น ทำให้เกิดเค้กที่นุ่มนวลได้
เริ่มจากการใช้ช้อนใหญ่ในการผสมวัตถุดิบ นำแป้งเค้กและผงฟูไปคั่วในกระทะที่ตั้งไฟอ่อน ๆ โดยการคั่วจะทำให้แป้งและผงฟูแพร่หลายกันและลดความชื้น จากนั้นให้นำน้ำมันรำข้าวมาเทลงในการคั่วพร้อมกับแป้งและผงฟู ควรคอยคนให้ทั่วๆ โดยไม่ให้เกิดการเป็นหยดน้ำมันแยกออกมาจากผสมนี้
หลังจากนั้น ให้นำไข่ น้ำตาล นมข้นหวาน น้ำ และกลิ่นวนิลามาผสมเข้ากับผงที่เตรียมไว้ และคนให้เข้ากันให้ดี ควรทำเพียงพอเท่านี้ ไม่ควรคนเกินไปเพราะอาจทำให้เค้กไม่นุ่ม ขั้นตอนนี้เราได้ผสมวัตถุดิบหลักเข้าด้วยกันอย่างพอดีและพร้อมในการเทลงแม่พิมพ์เค้กแล้ว
ขั้นตอนที่ 3: เตรียมพิมพ์เค้ก
ขั้นตอนที่ 3 ในการทำสปันจ์เค้กพื้นฐานเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากการเตรียมแม่พิมพ์เค้กให้พร้อมอาจมีผลต่อความสวยงามและคุณภาพของเค้ก ก่อนที่จะเทส่วนผสมลงในแม่พิมพ์ เราควรใช้น้ำมันรำข้าวเบาอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เค้กติดติดกับพิมพ์ สามารถใช้แปรงทาน้ำมันรำข้าวได้ เพียงทาบางๆ ลงบนผิวแม่พิมพ์ และตักส่วนผสมลงไปอย่างเท่าๆ กันในแม่พิมพ์ทุกช่วง เพื่อให้เค้กทุกชิ้นมีขนาดเท่าเทียม
การตีลมเค้กก่อนเป็นขั้นตอนอีกขั้นที่สำคัญ เพื่อให้มีลมระหว่างขนาดของแต่ละชิ้นและไม่มีช่องว่างที่เตรียมอาหารเข้าไป เราสามารถกระชับแม่พิมพ์เบาๆ บนพื้นที่เท่าๆ กันเพื่อให้เค้กเริ่มเป็นรูปทรงก่อนที่จะนำไปอบ
หลังจากนั้นให้นำเค้กลงในเตาอบที่ทำความร้อนไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส และอบเค้กเป็นเวลาประมาณ 30-35 นาที หรือจนกว่าเค้กจะเริ่มสีทอง หากต้องการตรวจสอบว่าเค้กสุกหรือยัง สามารถนำไม้แทรกลงไปในกลางเค้ก หากไม้ออกมาสะอาดแสดงว่าเค้กสุกแล้ว อย่าลืมปิดประตูเตาเอาเค้กออกให้ร้อนหรือปัดอากาศเย็นสักครู่ก่อนนำออกจากแม่พิมพ์
การเตรียมแม่พิมพ์และการอบเค้กอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในขั้นตอนนี้ เพราะมันมีผลอย่างมากต่อคุณภาพของเค้กของคุณ ให้ใส่ใจและระมัดระวังในขั้นตอนนี้เป็นอย่างมากเพื่อให้ได้เค้กที่สวยงามและอร่อยในที่สุด
ขั้นตอนที่ 4: อบเค้ก
ขั้นตอนที่ 4 ในการทำสปันจ์เค้กพื้นฐานเป็นขั้นตอนที่ทำให้เราได้กลิ่นหอมอร่อยที่หอมค่ะ หลังจากที่เราเตรียมแม่พิมพ์และเตรียมเค้กไว้แล้ว เราจะนำแม่พิมพ์ไปอบในเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ที่เตรียมไว้ล่วงหน้า โดยอบเค้กในช่วงเวลาประมาณ 30-35 นาที
การกำหนดเวลาการอบเค้กสำคัญมาก เพราะจะส่งผลต่อความนุ่มละมุนของเค้ก หากอบนานเกินไปเค้กจะแห้ง แต่หากอบไม่พอเวลาเค้กอาจยังไม่สุกอย่างเต็มที่ ดังนั้นควรเฝ้าดูเวลาอย่างใกล้ชิดและตรวจสอบความสุกของเค้กด้วยไม้แทรกทุกครั้งที่เปิดที่เตา
เมื่อเค้กสุกและมีกลิ่นหอมอร่อยแล้ว ให้ดึงแม่พิมพ์เค้กออกจากเตาอบอย่างระมัดระวังเพราะอากาศร้อน หลังจากนั้นปัดอากาศร้อนออกจากเค้กด้วยพัดลมหรือพัดลมใบเล็ก ๆ ให้เค้กเย็นสักครู่
ขั้นตอนนี้อาจใช้ความตรงของคุณในการควบคุมการอบเค้ก โดยการสังเกตอาการและกลิ่น เมื่อคุณรู้สึกว่าเค้กพร้อมแล้ว ก็สามารถดึงออกมาได้เช่นกัน ไม่ว่าจะทำครั้งแรกหรือครั้งที่สี่ ความชำนาญในการอบเค้กจะมาพร้อมกับปฏิบัติและประสบการณ์ที่สอนคุณให้ทำเค้กที่อร่อยและสวยงามได้อย่างเหมาะสม
ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบความสุก
ขั้นตอนที่ 5 ในการทำสปันจ์เค้กพื้นฐานเป็นขั้นตอนที่ต้องทำเพื่อให้แน่ใจว่าเค้กที่เราทำนี้สุกอย่างถูกต้อง การตรวจสอบความสุกมีความสำคัญมากเพราะเค้กที่สุกเต็มที่จะมีรสชาติที่ดีและโครงสร้างที่นุ่มนวล เราสามารถทำการตรวจสอบได้ดังนี้
หลังจากที่เค้กอบเสร็จและเย็นสักครู่ ให้ใช้ไม้แทรกแทรกลงในกลางเค้กเพื่อตรวจสอบความสุกของเค้ก ถ้าไม้แทรกออกมาแห้ง โดยไม่มีร่องน้ำตาลแปลก ๆ แสดงว่าเค้กสุกแล้ว
การแนะนำอีกวิธีที่ช่วยในการตรวจสอบความสุกคือการใช้นิ้วกดเบาๆ ที่กลางเค้ก ถ้าเค้กสะดุดนิ้วกลางทันทีและกลับมาเป็นทรงเดิมแสดงว่าเค้กสุกแล้ว หากนิ้วไม่สะดุดและยังคงความรูปร่างเดิม แสดงว่าเค้กยังไม่สุก
อีกวิธีที่นิยมใช้คือการใช้สายรางเส้นเดียวแหลมมาแทรกลงในเค้ก ถ้าสายรางลามลงมาพร้อมน้ำตาลแปลก ๆ แสดงว่าเค้กยังไม่สุก แต่ถ้าสายรางออกมาแห้งและไม่มีร่องน้ำตาล แสดงว่าเค้กสุกแล้ว
การตรวจสอบความสุกเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ช่วยให้คุณได้เค้กที่มีคุณภาพและอร่อยอย่างแน่นอน อย่าลืมที่จะปรับเวลาการอบในครั้งถัดไปหากเค้กยังไม่สุกตามที่คุณต้องการ
ขั้นตอนที่ 6: การตกแต่ง
ขั้นตอนที่ 6 ในการทำสปันจ์เค้กพื้นฐานเป็นขั้นตอนที่ทำให้เค้กของคุณสวยงามและอร่อยมากยิ่งขึ้น การตกแต่งเค้กเป็นท่าทีที่คุณสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังทำให้เค้กดูน่ารักและน่าทานมากขึ้นด้วย
เริ่มจากการใช้ครีมอันเนื้อนุ่มละมุนทาบนผิวเค้ก คุณสามารถเลือกใช้ครีมชีส, ครีมช็อกโกแลต, หรือครีมวนิลา ตามความชอบของคุณ ให้คลุมผิวของเค้กให้ทั่ว โดยใช้ไม้พายหรือมีดตัดแต่งช้อนเล็ก ๆ เพื่อเพิ่มรายละเอียดให้กับเค้กของคุณ
หลังจากที่ทาครีมแล้ว คุณสามารถเพิ่มเติมการตกแต่งด้วยผลไม้สด เช่น สตรอเบอร์รี่, กล้วย, หรือผลไม้ที่คุณชื่นชอบ ใช้มีดหรือกรรไกรตัดเล็ก ๆ เพื่อตัดผลไม้ให้เป็นชิ้นเล็กที่สวยงาม แล้ววางลงบนครีม
นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ช็อกโกแลตชิพ, กระดาษขนม, หรือถังกระดาษแพทเต้เพื่อเพิ่มลวดลายหรือลวดลายที่น่าสนใจบนเค้กของคุณได้อีกด้วย ความคิดสร้างสรรค์ไม่มีขีดจำกัด เพียงแต่คุณสามารถแสดงความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้อย่างไม่จำกัดในการตกแต่งเค้กนี้
การตกแต่งเค้กไม่เพียงแค่ทำให้มันดูสวยงามและอร่อย เเต่ยังทำให้คุณรู้สึกสนุกและพึ่งพิงในการทำอาหารด้วย ขั้นตอนนี้เป็นโอกาสที่คุณสามารถให้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณเร่งขึ้นและสร้างสรรค์เค้กที่สร้างความประทับใจให้กับคนที่รับประทานได้
ขั้นตอนที่ 7: การเสิร์ฟเค้ก
ขั้นตอนที่ 7 ในการทำสปันจ์เค้กพื้นฐานคือการเสิร์ฟเค้กที่คุณได้ทำขึ้นมาอย่างสวยงามและอร่อย การเสิร์ฟเค้กมีสไตล์และวิธีที่หลากหลายที่คุณสามารถเลือกใช้ตามที่คุณต้องการ
หากคุณต้องการเสิร์ฟเค้กในรูปแบบพื้นๆ คุณสามารถนำเค้กออกมาจากแม่พิมพ์และตัดเป็นชิ้นตามขนาดที่คุณต้องการ จากนั้นให้วางเค้กลงบนจานเสิร์ฟและตกแต่งด้วยครีมหรือผลไม้ที่คุณชื่นชอบ
ถ้าคุณต้องการเสิร์ฟเค้กในสไตล์ที่น่าสนใจมากขึ้น คุณสามารถนำเค้กไปวางบนจานเสิร์ฟแล้วคลุมด้วยช็อกโกแลตน้ำมันหรือน้ำตาลไอซิ่งที่หลุดลามลงไปบนเค้ก เพื่อให้มีลวดลายน่าสนใจ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ถังกระดาษแพทเต้วางลงบนเค้กแล้วใส่ครีมหรือผลไม้ไว้ด้านบนเพื่อเพิ่มความสวยงาม
ไม่ว่าคุณจะเลือกเสิร์ฟเค้กในรูปแบบใด ขั้นตอนนี้เป็นโอกาสให้คุณแสดงความสร้างสรรค์และความเป็นเจ้าของของเค้กที่คุณทำขึ้นมา ทำให้การเสิร์ฟเค้กกลายเป็นท่าทีที่น่าตื่นตาตื่นใจและสร้างประทับใจให้กับคนที่รับประทาน
ขั้นตอนที่ 8: คำแนะนำเพิ่มเติม
หลังจากที่คุณได้ทำสปันจ์เค้กพื้นฐานขึ้นมาอย่างสวยงามและอร่อยแล้ว ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมที่อาจมีประโยชน์ในการทำเค้กให้อร่อยและสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น:
- เลือกวัตถุดิบคุณภาพสูง: การเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น ใช้ไข่ที่สดใหม่, น้ำตาลที่ไม่มีสิ่งเจือปน, และแป้งเค้กที่มีคุณภาพดีเพื่อให้เค้กมีรสชาติที่ดี.
- วัดวัตถุดิบอย่างถูกต้อง: การวัดวัตถุดิบอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สัดส่วนของส่วนผสมเป็นไปตามสูตรที่กำหนด นี้จะช่วยให้เค้กออกมาดีและอร่อย.
- การเทลงแม่พิมพ์เค้ก: แต่ก่อนเทเค้กลงในแม่พิมพ์ ควรทาแม่พิมพ์ด้วยน้ำมันรำข้าวหรือน้ำมันพืชเบาเพื่อป้องกันไม่ให้เค้กติดตัวแม่พิมพ์.
- ควบคุมอุณหภูมิออบ: อย่าลืมตรวจสอบอุณหภูมิในเตาอบเพื่อให้เค้กประสบความสำเร็จ ควรใช้เทอร์โมมิเตอร์เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิอย่างถูกต้อง.
- การตกแต่งด้วยความระมัดระวัง: การตกแต่งเค้กด้วยความระมัดระวังช่วยให้เค้กดูสวยงามและอร่อยมากยิ่ง ลองใช้ครีม, ผลไม้, ช็อกโกแลตชิพ, หรืออื่น ๆ ตามความชอบของคุณ.
- การรับประทานเค้กทันที: เค้กที่อบมาควรรับประทานในขณะที่ยังอุ่น ๆ หรือเย็น ๆ เพื่อให้รสชาติและพิมพ์นุ่มยิ่งขึ้น.
- การเก็บรักษาเค้ก: หากคุณต้องการเก็บรักษาเค้ก ควรเก็บในภาชนะซึ่งปิดสนิทเพื่อป้องกันการแห้ง โดยไม่ควรเก็บในตู้เย็นเพราะอาจทำให้เค้กแห้ง.
- การสร้างความสนใจในรายละเอียด: ไม่ว่าคุณจะตกแต่งเค้กอย่างไร การสร้างความสนใจในรายละเอียดจะทำให้เค้กของคุณน่าตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้น.
ขั้นตอนที่ 8 เป็นคำแนะนำเพิ่มเติมที่สามารถช่วยให้คุณทำเค้กที่อร่อยและสวยงามมากยิ่งขึ้น ขอให้คุณสนุกในการทำเค้กและเสิร์ฟให้คนรอบข้างได้รับประทานอย่างสนุกสนานค่ะ!
ขั้นตอนที่ 9: วิธีเก็บรักษาเค้ก
หลังจากที่คุณทำสปันจ์เค้กพื้นฐานและเสิร์ฟไปแล้ว ถ้าคุณมีเค้กเหลือหรือต้องการเก็บรักษาเค้กเพื่อรับประทานในภายหลัง ควรปฏิบัติตามขั้นตอนเก็บรักษาต่อไปนี้:
- รอให้เค้กเย็น: ก่อนที่จะเก็บเค้ก เราควรรอให้เค้กเย็นสักครู่ นี้ช่วยให้เค้กคงรูปร่างและความนุ่มนวลของมันได้ดี.
- ใช้ฟอยล์หรือพลาสติกคลุม: หากคุณไม่คาดว่าจะบริโภคเค้กทั้งหมดในวันเดียว ควรใช้ฟอยล์อาหารหรือพลาสติกคลุมเค้กให้สนิท เพื่อป้องกันการสัมผัสของอากาศที่อาจทำให้เค้กแห้ง.
- เก็บในที่ระบายอากาศ: ควรเก็บเค้กในที่ที่มีการระบายอากาศ เพื่อป้องกันความชื้นที่อาจทำให้เค้กเน่า.
- ไม่เก็บในตู้เย็น: อย่าเก็บเค้กในตู้เย็น เพราะอากาศที่เย็นจะทำให้เค้กแห้ง ควรเก็บที่อุณหภูมิห้องทั่วไปเพียงพอ.
- เก็บเค้กในภาชนะสนิท: หากมีภาชนะใส่เค้กอยู่ ควรใช้ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เพื่อป้องกันสารแปรกปรวนเข้าสู่เค้ก.
- ใช้เค้กในระยะเวลาที่เหมาะสม: เค้กที่เก็บรักษาได้นานไม่ควรเก็บเกินกว่า 2-3 วันเพื่อความคุ้มค่าทางคุณภาพและรสชาติ.
- ควรทำความสะอาดมือก่อนการรับประทาน: ในการรับประทานเค้กที่เก็บไว้นาน ควรล้างมือให้สะอาดก่อน เพื่อป้องกันสารสกัดหรือสิ่งสกัดจากมือไปสู่เค้ก.
การเก็บรักษาเค้กอย่างถูกต้องช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเค้กอร่อย ๆ ได้ในระยะเวลาที่มากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าเค้กจะเสื่อมสภาพหรือเสียคุณภาพไป
ขั้นตอนที่ 10: ข้อคิดเสร็จสิ้น
เมื่อคุณเสร็จสิ้นการทำสปันจ์เค้กพื้นฐานและได้เสิร์ฟให้คนรอบข้างรับประทานอย่างสนุกสนานแล้ว ข้อคิดที่สำคัญที่สุดคือความพึงพอใจที่คุณเกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ การทำอาหารเป็นท่าที่ท่านี้ที่สามารถเพลิดเพลินและสร้างความสุขให้กับตัวเองและคนรอบข้างได้ในทุกขั้นตอน
ขอเชิญคุณมองย้อนกลับไปที่ขั้นตอนแรกที่เริ่มทำเค้ก การเตรียมวัตถุดิบ และความตั้งใจที่จะสร้างสิ่งอร่อยนี้ขึ้นมา ทุกขั้นตอนในกระบวนการนี้เป็นโอกาสให้คุณได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะในการทำอาหาร อาจมีความยากลำบากบ้าง แต่ก็มีความสุขและความสำเร็จอย่างมากในท้ายที่
อย่าลืมที่จะแบ่งปันความสุขนี้กับคนรอบข้าง ความสนุกสนานที่มาพร้อมกับการรับประทานอาหารที่คุณทำเองไม่มีทางเทียบเท่า และนี่คือสิ่งที่ทำให้กระบวนการทำอาหารเป็นสิ่งพิเศษและมีความหมายมากยิ่งขึ้น
สุดท้าย ข้อคิดเสร็จสิ้นคือการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองผ่านการทำอาหาร มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะพัฒนาทักษะในการทำอาหารและเพิ่มความเข้าใจในกระบวนการทำอาหารอย่างลึกซึ้งขึ้น ในท้ายที่ แต่ละครั้งที่คุณทำอาหารเค้ก มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะพิสูจน์ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของคุณในทุก ๆ ชิ้นแห่งเค้กนี้ ขอให้คุณเริ่มการผจญภัยในการทำอาหารอย่างสนุกสนานและพบความสำเร็จในทุกครั้งที่คุณจัดเสิร์ฟอาหารเค้กนี้ค่ะ!
สรุป
ในสรุปของบทความนี้ การทำสปันจ์เค้กพื้นฐานเป็นกระบวนการที่สนุกสนานและอร่อยมาก โดยมีขั้นตอนที่ต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้เค้กที่มีรสชาติอันอร่อยและความนุ่มนวล โดยไม่ต้องหายห่วงว่าจะทำผิดไป ขั้นตอนละเอียดและวิธีการตกแต่งเค้กนี้สามารถทำให้ผู้ทำอาหารรู้สึกเป็นเชฟมืออาชีพในบ้าน ควรรับประทานเค้กที่ทำเองในช่วงเวลาที่อยากให้มีความสุขและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น เป็นของขวัญที่ทุกคนรักอยู่ด้วยครับ!
FAQs
คำถาม 1: มีวิธีเพิ่มความฉ่ำในเค้กได้อย่างไร?
คำตอบ: ความฉ่ำในเค้กสามารถเพิ่มได้โดยการเติมน้ำผลไม้หรือน้ำผงชอกโกแลตลงในส่วนของเครมหรือเติมน้ำผลไม้ที่ต้นไม้หรือผลไม้สดบนเค้กก่อนเสิร์ฟ
คำถาม 2: อยากทำเค้กแบบไม่ใช้น้ำตาล มีวิธีทำได้อย่างไร?
คำตอบ: สามารถใช้แทนที่น้ำตาลด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทานแทนได้ ควรลดปริมาณน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทานลงเล็กน้อยเนื่องจากมีความหวานสูงกว่าน้ำตาลปกติ
คำถาม 3: ทำไมเค้กมีแอร์โบเบียล?
คำตอบ: แอร์โบเบียลในเค้กเกิดขึ้นจากการใช้สิ่งที่ทุกคนรักอยู่ (อากาศ) ในกระบวนการผสมส่วนผสมของเค้ก การใช้เครื่องตีไข่และการปั่นน้ำตาลและไข่นำเข้าอากาศเข้าไปในแม่พิมพ์เค้ก
คำถาม 4: มีวิธีทำเค้กที่ไม่ให้เนื้อเค้กแห้งไหม?
คำตอบ: การไม่ให้เนื้อเค้กแห้งขึ้นขึ้นอยู่กับการควบคุมอุณหภูมิออบ ควรตรวจสอบอุณหภูมิในเตาอบเพื่อไม่ให้เผาเค้กนานเกินไป และการใช้ส่วนผสมที่มีความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ
คำถาม 5: มีวิธีแก้เค้กที่ติดตัวแม่พิมพ์ไหม?
คำตอบ: หากเค้กติดตัวแม่พิมพ์ ควรใช้มีดเล็กหรือช้อนเพื่อปลดเค้กออก แต่ควรรอให้เค้กเย็นลงบ้างก่อนเพื่อลดความเสี่ยงในการแตกหรือยับเค้ก